พระอาทิตย์แดนใต้เปล่งประกายเจิดจ้า นาโปลีและโรม่าคือตัวแทนภูมิภาค

ครึ่งแข้งล่างของรองเท้าบู้ตที่กล้าท้าทายดุลอำนาจทางตอนเหนือทั้ง มิลาน

แห่งลอมบาร์ดี ตูรินแห่งเปียดมอนต์ เจนัวแห่งลิกูเรีย โบโลญญ่าแห่ง

เอมิเลีย-โรมันย่า ฟลอเรนซ์แห่งทุสคานี่..

โรม่า พบกับ นาโปลี เรียกกันว่า ดาร์บี้ เดล โซเล่ (Derby del Sole)

Derby del Sole – Derby of the sun – ดาร์บี้แมตช์แห่งดวงตะวัน

นี่คือสองทีมแรกจากภูมิภาคของตัวเองที่เข้าร่วมลีกแห่งชาติของประเทศอิตาลีเมื่อฤดูกาล 1926/27

โรม่าคือทีมแรกจากตอนกลาง นาโปลีคือทีมแรกจากแดนใต้

มันไม่ใช่ดาร์บี้แมตช์ในความหมายตรงตัวของ 2 ทีมจากเมืองเดียวกันอย่าง ดาร์บี้ เดลล่า ลันแตร์น่า (Derby della Lanterna)

แห่งเมืองเจนัว/ ดาร์บี้ เดลล่า โมเล่ (Derby della Mole) แห่งเมืองตูริน/ ดาร์บี้ เดลล่า สกาล่า (Derby della Scala)

แห่งเมืองเวโรน่า/ ดาร์บี้ เดลล่า กาปิตาเล่ (Derby della Capitale) แห่งกรุงโรม หรือสุดยอดดาร์บี้ของโลกอย่าง ดาร์บี้ เดลล่า

มาดอนนิน่า (Derby della Madonnina) แห่งเมืองมิลาน

 

สู้กันไม่ได้หรอกครับ จากอดีตจนถึงปัจจุบันฟุตบอลลีกอิตาลีนั้นว่าด้วยทางเหนือล้วนๆ

ขีดเส้นแบ่งรองเท้าบู้ตออกเป็นโซนเหนือกับโซนใต้ สคูเด๊ตโต้ตกเป็นของทางเหนือ 107 สมัย เป็นของทางใต้แค่.. 8 สมัย

นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรโรม่ากับนาโปลีถึงเคยรักกัน ก็เพราะทั้งคู่คือความหวังของภูมิภาคที่ไม่ใช่คนเหนือด้วยกัน

โรมจากแคว้นลาซิโอทางตอนกลางค่อนมาทางใต้

เนเปิ้ลส์จากแคว้นคัมปาเนีย แคว้นนี้ใต้แบบชัดๆ เน้นๆ

โรมคือเมืองหลวง เนเปิ้ลส์คือเมืองใหญ่ ต่างร่ำรวยด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี หากการเจริญเติบโต

ด้านอื่นๆ โดยเฉพาะเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านั้นกระจุกตัวอยู่ทางตอนเหนือ

การมีอยู่ของโรม่าและนาโปลีจึงเป็นสัญลักษณ์แทนการต่อสู้ของคนทางใต้

เป็นตัวแทนของความหวัง สุกสว่าง สาดแสง และแรงร้อน

เป็น Derby del Sole ดาร์บี้แมตช์แห่งดวงตะวัน

ความผูกพันแน่นแฟ้นถึงกับมีคำศัพท์หนึ่งใช้บรรยายเกมคู่นี้ว่า gemellaggio หมายถึง การที่ทั้งสองฝ่ายต่าง

ก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน

ไม่ว่าจะเตะที่เนเปิ้ลส์หรือกรุงโรม Derby del Sole จะเป็นเหมือนงานฉลองกลายๆ แฟนบอลแลกธง เดินทัก

ทายรอบสนาม ร้องเพลงร่วมกัน มีป้ายผ้าเขียนถ้อยคำให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

เสียงตะโกน “Napoli! Napoli!” จากกลุ่มแฟนบอลโรม่าคือเรื่องปกติ

เสียงตะเบ็ง “Roma! Roma!” จากแฟนบอลนาโปลีก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกันสำหรับ Derby del Sole

    หากความขัดแย้งเริ่มเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1985 เมื่อนาโปลีเซ็น บรูโน่ จอร์ดาโน่ กองหน้า

ระดับว่าที่ตำนานของลาซิโอเข้าสู่ถิ่นซาน เปาโล ที่ทำให้ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไป

26 ตุลาคม 1986 นาโปลีขึ้นไปเยือนโรม่า แฟนบอล 15,000 คนตามไปเชียร์จากแดนใต้ แฟนโรม่าร้องเพลงด่าจอร์ดาโน่

ที่เคยเป็นนักเตะของคู่อริร่วมเมือง แฟนนาโปลีจึงตอบโต้ด้วยเพลงด่า บรูโน่ คอนติ มิดฟิลด์ขวัญใจแฟนหมาป่าเหลืองแดงบ้าง

เกมนั้นไม่มีอะไรเกินเลย นาโปลีชนะ 1-0 ดีเอโก้ มาราโดน่ายิง จอร์ดาโน่จ่าย บรรยากาศโดยรวมยังคงเป็นงานฉลองใน

แบบ Derby del Sole กันอยู่เหมือนเดิม

หนึ่งปีให้หลัง.. 25 ตุลาคม 1987 นาโปลีขึ้นไปเยือนอีกครั้ง คราวนี้ทีมอัซซูร่าพกดีกรีดับเบิ้ลแชมป์ติดตัวไปด้วย

บรรยากาศในช่วงแรกๆ ยังคงดีเหมือนที่ผ่านมาแต่ในช่วงที่ตัวแทนแฟนบอลแลกธงกันหน้าอัฒจันทร์ฝั่ง Curva Sud

ที่เต็มไปด้วยกองเชียร์เจ้าบ้าน กลับมีเสียงตะโกนด่าทอระหว่างแฟนบอลทั้ง 2 ฝ่ายไม่หยุด ทำให้ความตึงเครียดเกิดขึ้นทันที

เกมในสนามยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกเมื่อหวดกันอย่างเดือดดาล นาโปลีถูกยิงนำนาทีที่ 47 และโดนไล่ออกอีก 2 คน

คือ กาเรก้า ที่เอาหัวโขกคู่แข่งในนาที 54 และ อเลสซานโดร เรนิก้า ที่โดนสองเหลืองในอีกแค่ 9 นาทีให้หลัง แต่สุดท้าย

มาราโดน่าเปิดลูกเตะมุมให้ โจวานนี่ ฟรานชินี่ โหม่งตีเสมอนาที 67 แบ่งแต้มกลับแดนใต้

นักเตะและแฟนบอลทีมปาร์เตโนเปดีใจสุดเหวี่ยง ส่วนกองเชียร์โรม่าโมโหสุดขีด และเมื่อ ซัลวาตอเร่ บายี่ กองกลางนาโปลี

ทำท่า “gesto dell’ombrello” (ชูแขนขวาขึ้นสุดแล้วใช้มือซ้ายจับท่อนแขน เปรียบได้กับการชูนิ้วกลาง) ให้กับแฟนบอลจัลโล่

รอสซี่ขณะเดินออกจากสนาม เชือกที่เขม็งเกลียวอย่างเกรี้ยวกราดก็ขาดผึง!

    ความสัมพันธ์ระหว่างโรม่ากับนาโปลีสะบั้นลงทันทีตั้งแต่วินาทีนั้น นั่นคือจุดจบของมิตรภาพอันสวยงามแห่ง

Derby del Sole และเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรงแห่งดาร์บี้แมตช์ดวงตะวันตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา

ความอบอุ่นหลีกทางให้กับความรุนแรง Derby del Sole ยกระดับจนกลายเป็นหนึ่งในเกมที่เต็มไปด้วยปัญหาและอันตราย

ที่สุดในดินแดนรองเท้าบู้ต

ปล้น แทง วิวาท และความตาย..

ชิโร่ เอสโปซิโต้ แฟนนาโปลีวัย 29 ปีถูก ดานิเอเล่ เด ซานติส กองเชียร์โรม่ายิงตายระหว่างการยกพวกวิวาทก่อนเกม

นัดชิงโคปปา อิตาเลีย 2014 ที่นาโปลีเดินทางขึ้นกรุงโรมเพื่อเตะกับฟิออเรนติน่าที่สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม

สองปีให้หลังแฟนโรม่าวัย 20 ก็โดนแทงในเนเปิ้ลส์เพราะไม่ยอมปกปิดรอยสักตราสโมสรที่แขน แฟนบอลหมาป่าตอบ

โต้ด้วยการทำลายแผ่นป้ายอนุสรณ์รำลึกถึง ชิโร่ เอสโปซิโต้ ในกรุงโรม

แฟนบอลของทั้ง 2 ทีมก่อเรื่องวิวาทกันได้ทุกที่ บนรถบัส ในสถานีรถไฟ หน้าสนาม ริมถนน แม้กระทั่งในสถานีตำรวจก็

เคยตีกันมาแล้ว

มีเสียงเรียกร้องถึงการสงบศึกแต่ปัญหาเลยเถิดจนเกินเยียวยา ความเสี่ยงของเกมนี้ทำให้หลายครั้งมีคำสั่ง

ไม่ให้แฟนบอลทีมเยือนเดินทางไปชมเกมไม่ว่าจะที่กรุงโรมหรือเนเปิ้ลส์

ในวันนี้ Derby del Sole ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว อันที่จริงมันไม่เหมือนเดิมมานานแล้ว

มันยังคงร้อนแรงสมชื่อ เพียงแต่ไม่ได้ร้อนแรงด้วยความรัก หากเป็นความกลัวและเกลียดชัง

เครดิตโดย : UFABETWINS

อ่านต่อได้ที่ : https://www.sterlingassociationmanagement.com